บทสวดมนต์ มหาสมัยสูตร จากหนังสือสวดมนต์แปล ฉบับรวบรวมและแปลโดย พระศาสนโศภน (แจ่ม จตฺตสลฺโล) วัดมกุฏกษัตริยาราม ซึ่งได้มอบให้มหามกุฏราชวิทยาลัยเป็นเจ้าของ (ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 11/2533) (พิมพ์ครั้งที่ 1 เมื่อปี 2481) (542 หน้า)
สามารถดาวน์โหลด Ebook ไฟล์ PDF หนังสือสวดมนต์แปล และไฟล์ DOC, EPUB บทสวดมนต์แปล มาไว้อ่านบนเครื่องคอมพิวเตอร์/โทรศัพท์มือถือ ได้ที่ Link :
https://drive.google.com/drive/folders/0BzNKymgMsofBOThBX3gzNUhWTXc?resourcekey=0-w3YZgnd85d_xWTdYISLL_A&usp=sharing
https://play.google.com/store/search?q=ting074ch&c=books
สามารถรับฟังเสียงสวดมนต์ (สวดมนต์ ทำนองมคธ / ธรรมยุติ โดยไม่เปลี่ยนเสียงพยัญชนะ) และเสียงอ่านคำแปลบทสวดมนต์บางบท ได้ที่ ting074ch Youtube Channel ที่ Link :
https://www.youtube.com/channel/UC0lr6qLF2P9Lm5XdtbsXiQw
เริ่มมหาสมัยสูตร
|
(หน้า
233)
|
ทุลฺลภํ ทสฺสนํ
ยสฺส
สมฺพุทฺธสฺส อภิณฺหโส
|
การได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเนือง
ๆ หาได้ยาก
|
โลกมฺหิ อนฺธภูตสฺมึ
ทุลฺลภุปฺปาทสตฺถุโน
|
กาลเป็นที่เกิดขึ้นแห่งพระศาสดาในโลกอันมืด หาได้ยาก
|
สกฺเกสุ กปิลวตฺถุสฺมึ
วิหรนฺตํ มหาวเน
ตนฺทสฺสนาย สมฺพุทฺธํ
ภิกฺขุสงฺฆญฺจ นิมฺมลํ
ทสธา สงฺคเณยฺยาสุ
โลกธาตูสุ เทวตา
อเนกา อปฺปเมยฺยาว
โมทมานา สมาคตา
|
(เพราะฉะนั้น) เหล่าเทพดาใน 10 โลกธาตุ เป็นอเนกประมาณ จึงชื่นชมมาประชุมกัน เพื่อทัสสนาพระสัมพุทธเจ้า และพระภิกษุสงฆ์ผู้บริสุทธ์ ซึ่งประทับอยู่ ณ ป่ามหาวัน ในกรุงกบิลพัสดุ์ ในสักกชนบท
|
ตาสํ ปิยํ
มนาปญฺจ
จิตฺตสฺโสทคฺคิยาวหํ
ยํ โส
เทเสสิ สมฺพุทฺโธ
หาสยนฺโตติ เม
สุตํ
|
พระสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงพระสูตรเป็นที่รัก และเป็นที่พึงใจ นำมาซึ่งปีติปราโมทย์ แห่งจิตของเทพดาเหล่านั้น ให้เทพดาเหล่านั้นร่าเริงอยู่ ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
|
เทวกายปฺปหาสตฺถํ
ตํ สุตฺตนฺตํ
ภณาม เส.
|
เราทั้งหลาย จงสวดพระสูตรนั้น เพื่อเป็นที่ร่าเริง แห่งหมู่เทพดา เทอญ.
|
มหาสมัยสูตร
|
(หน้า
234)
|
เอวมฺเม สุตํ
|
อันข้าพเจ้า (คือพระอานนทเถระ) ได้สดับมาแล้วอย่างนี้
|
เอกํ สมยํ
ภควา
|
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า
|
สกฺเกสุ วิหรติ
|
เสด็จประทับอยู่ในสักกชนบท
|
กปิลวตฺถุสฺมึ มหาวเน
|
ณ ป่ามหาวัน
ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์
|
มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ
|
กับด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่
|
ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ
|
คือภิกษุประมาณ
500
|
สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ
|
ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด
|
ทสหิ จ
โลกธาตูหิ
เทวตา เยภุยฺเยน
|
อนึ่ง เทพดาทั้งหลาย ก็มาแล้วจากโลกธาตุ 10 โดยมาก
|
สนฺนิปติตา โหนฺติ
|
เป็นผู้ประชุมกันแล้ว
|
ภควนฺตํ ทสฺสนาย
|
เพื่อทัสสนาพระผู้มีพระภาคเจ้า
|
ภิกฺขุสงฺฆญฺจ
|
และภิกษุสงฆ์
|
อถ โข
จตุนฺนํ สุทฺธาวาส-
กายิกานํ เทวานํ
เอตทโหสิ
|
ครั้งนั้นแล ความปริวิตกนี้ ได้มีแก่เทพดาชั้นสุทธาวาส 4 องค์ว่า
|
อยํ โข
ภควา สกฺเกสุ วิหรติ
กปิลวตฺถุสมึ มหาวเน
|
พระผู้มีพระภาคเจ้านี้แล ประทับอยู่ ณ ป่ามหาวัน ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ ในสักกชนบท
|
มหตา ภิกฺขุสงฺเฆน สทฺธึ
|
กับด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่
|
ปญฺจมตฺเตหิ ภิกฺขุสเตหิ
|
คือภิกษุประมาณ
500
|
สพฺเพเหว อรหนฺเตหิ
|
ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด
|
ทสหิ จ
โลกธาตูหิ
เทวตา เยภุยฺเยน
|
อนึ่ง เทพดาทั้งหลาย ก็มาแล้วจากโลกธาตุ 10 โดยมาก
|
สนฺนิปติตา โหนฺติ
|
เป็นผู้ประชุมกันแล้ว
|
ภควนฺตํ ทสฺสนาย
|
เพื่อทัสสนาพระผู้มีพระภาคเจ้า
|
ภิกฺขุสงฺฆญฺจ
|
และภิกษุสงฆ์
|
ยนฺนูน มยมฺปิ
|
อย่ากระนั้นเลย แม้เราทั้งหลาย
|
เยน ภควา
|
พระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับโดยที่ใด
|
เตนุปสงฺกเมยฺยาม
|
พึงเข้าไปโดยที่นั้น
|
อุปสงฺกมิตฺวา
|
ครั้นเข้าไปใกล้แล้ว
|
ภควโต สนฺติเก
ปจฺเจกคาถา
ภาเสยฺยามาติ
|
พึงกล่าวคาถาเฉพาะองค์ละคาถา ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้า
|
อถโข ตา
เทวตา
|
ครั้งนั้นแล เทพดาทั้งหลายนั้น
|
เสยฺยถาปิ นาม
พลวา ปุริโส
|
เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีกำลัง
|
สมฺมิญฺชิตํ วา
พาหํ ปสาเรยฺย
|
พึงเหยียดแขนที่งอออกหรือ
|
ปสาริตํ วา
พาหํ สมฺมิญฺเชยฺย
|
หรือพึงคู้แขนที่เหยียดออกแล้วเข้ามา
|
เอวเมว สุทฺธาวาเสสุ
เทเวสุ อนฺตรหิตา
|
อย่างเดียวกันฉันนั้น ได้อันตรธานในเทวโลกชั้นสุทธาวาส
|
ภควโต ปุรโต
ปาตุรหํสุ
|
มาปรากฏเบื้องพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า
|
อถ โข
ตา เทวตา
|
ครั้งนั้นแล เทพดาทั้งหลายนั้น
|
ภควนฺตํ อภิวาเทตฺวา
|
ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว
|
เอกมนฺตํ อฏฺฐํสุ
|
ได้ยืนอยู่ส่วนข้างหนึ่ง
|
เอกมนฺตํ ฐิตา
โข เอกา
เทวตา
|
เทพดาองค์หนึ่ง ซึ่งยืนอยู่แล้วส่วนข้างหนึ่งแล
|
ภควโต สนฺติเก
อิมํ คาถํ
อภาสิ
|
ได้ภาษิตคาถานี้ ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
|
มหาสมโย ปวนสฺมึ
|
วันนี้เป็นมหาสมัยในป่ามหาวัน
|
เทวกายา สมาคตา
|
หมู่เทพดาทั้งหลายมาประชุมกันแล้ว
|
อาคตมฺห อิมํ
ธมฺมสมยํ
|
เราเป็นผู้มาแล้วสู่ธรรมสมัยนี้
|
ทกฺขิตาเยว อปราชิตสงฺฆนฺติ
|
ได้เห็นพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์
|
อถ โข
อปรา เทวตา
|
ลำดับนั้นแล เทพดาอีกองค์หนึ่ง
|
ภควโต สนฺติเก
อิมํ คาถํ
อภาสิ
|
ได้ภาษิตคาถานี้ ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
|
ตตฺร ภิกฺขโว
สมาทหํสุ
|
พระภิกษุทั้งหลายในที่ประชุมนั้น มั่นคงแล้ว
|
จิตฺตํ อตฺตโน
อุชุกมกํสุ
|
ได้ทำจิตของตนให้ตรง
|
สารถีว เนตฺตานิ
คเหตฺวา
|
เหมือนสารถี ถือเชือกทั้งหลาย ยืนอยู่
|
อินฺทฺริยานิ รกฺขนฺติ
ปณฺฑิตาติ
|
ท่านเป็นบัณฑิต รักษาอินทรีย์ทั้งหลายดั่งนี้
|
อถ โข
อปรา เทวตา
|
ลำดับนั้น เทพดาอีกองค์หนึ่ง
|
ภควโต สนฺติเก
อิมํ คาถํ
อภาสิ
|
ได้ภาษิตคาถานี้ ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
|
เฉตฺวา ขีลํ
เฉตฺวา ปลีฆํ
|
ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ตัดกิเลสดุจตาปู กิเลสดุจลิ่มสลัก
|
อินฺทขีลํ โอหจฺจมเนชา
|
ถอนกิเลสดุจเสาเขื่อนแล้ว เป็นผู้ไม่หวั่นไหว
|
เต จรนฺติ
สุทฺธา วิมลา
|
ท่านเป็นผู้หมดจด ไม่มีมลทิน
เที่ยวไป
|
จกฺขุมตา สุทนฺตา
สุสู นาคาติ
|
ท่านเป็นพระนาคะหนุ่ม มีดวงตาทรมานดีแล้วดังนี้
|
อถ โข
อปรา เทวตา
|
ลำดับนั้นแล เทพดาอีกองค์หนึ่ง
|
ภควโต สนฺติเก
อิมํ คาถํ อภาสิ
|
ได้ภาษิตคาถานี้ ในสำนักของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
|
เย เกจิ
พุทฺธํ สรณํ คตา
เส
|
ชนทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ถึงพระพุทธเจ้าว่าเป็นสรณะ
|
น เต
คมิสฺสนฺติ อปายภูมึ
|
ชนทั้งหลายเหล่านั้น จักไม่ไปสู่อบายภูมิ
|
ปหาย มานุสํ
เทหํ
|
ละกายเป็นของมนุษย์แล้ว
|
เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺตีติ
|
จักยังกายทิพย์ให้บริบูรณ์ดังนี้
|
อถโข ภควา
ภิกฺขู อามนฺเตสิ
|
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า
|
เยภุยฺเยน ภิกฺขเว
ทสสุ
โลกธาตูสุ เทวตา
สนฺนิปติตา
|
ภิกษุทั้งหลาย เทพดาทั้งหลายในโลกธาตุ 10 ประชุมกันแล้วโดยมาก
|
ตถาคตํ ทสฺสนาย
ภิกฺขุสงฺฆญฺจ
|
เพื่อทัสสนาตถาคตและภิกษุสงฆ์
|
เยปิ เต
ภิกฺขเว อเหสุํ
อตีตมทฺธานํ อรหนฺโต
สมฺมาสมฺพุทฺธา
|
ภิกษุทั้งหลาย
พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธทั้งหลายนั้น แม้ใด
ได้มีแล้วในอดีตกาล
|
เตสมฺปิ ภควนฺตานํ
เอตปรมาเยว เทวตา
สนฺนิปติตา อเหสุํ
|
เทพดาทั้งหลาย มีประมาณเท่านี้แหละ ได้เป็นผู้ประชุมกันแล้วเพื่อทัสสนาพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายแม้นั้น
|
เสยฺยถาปิ มยฺหํ
เอตรหิ
|
แม้เหมือนเทพดาทั้งหลาย ประชุมกันเพื่อทัสสนาเราในบัดนี้
|
เยปิ เต
ภิกฺขเว ภวิสฺสนฺติ
อนาคตมทฺธานํ อรหนฺโต
สมฺมาสมฺพุทฺธา
|
ภิกษุทั้งหลาย พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธทั้งหลายนั้นแม้ใด จักมีในอนาคต
|
เตสมฺปิ ภควนฺตานํ
เอตปรมาเยว เทวตา
สนฺนิปติตา ภวิสฺสนฺติ
|
เทพดาทั้งหลาย มีประมาณเท่านี้แหละ
จักเป็นผู้ประชุมกันแล้วเพื่อทัสสนาพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายแม้นั้น
|
เสยฺยถาปิ มยฺหํ
เอตรหิ
|
แม้เหมือนเทพดาทั้งหลาย ประชุมกันเพื่อทัสสนาเราในบัดนี้
|
อาจิกฺขิสฺสามิ ภิกฺขเว
|
ภิกษุทั้งหลาย เราจักบอก
|
เทวกายานํ นามานิ
|
ซึ่งชื่อของพวกเทพดาทั้งหลาย
|
กิตฺตยิสฺสามิ ภิกฺขเว
|
ภิกษุทั้งหลาย เราจักกำหนด
|
เทวกายานํ
นามานิ
|
ซึ่งชื่อของพวกเทพดาทั้งหลาย
|
เทสิสฺสามิ ภิกฺขเว
|
ภิกษุทั้งหลายเราจักแสดง
|
เทวกายานํ นามานิ
|
ซึ่งชื่อของพวกเทพดาทั้งหลาย
|
ตํ สุณาถ
|
ท่านทั้งหลาย จงฟังซึ่งการแสดงชื่อของเทพดานั้น
|
สาธุกํ มนสิ
กโรถ
|
จงทำในใจ ให้สำเร็จประโยชน์เถิด
|
ภาสิสฺสามีติ
|
เราจักภาษิต
ณ บัดนี้
|
เอวมฺภนฺเตติ โข
เต ภิกฺขู
ภควโต ปจฺจสฺโสสุํ
|
ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลรับแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า อย่างนั้นพระเจ้าข้า ดังนี้แล
|
ภควา
เอตทโวจ
|
พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัสภาษิตนี้ว่า
|
สิโลกมนุกสฺสามิ
|
เราจะทำสิโลก ( คือถ้อยคำที่ประพันธ์ผูกเป็นคำฉันท์ )
|
ยตฺถ ภุมฺมา
ตทสฺสิตา
|
ภุมมเทพดาทั้งหลาย อาศัยแล้วในที่ใด ภิกษุทั้งหลายอาศัยแล้วในที่นั้น
|
เย สิตา
คิริคพฺภรํ
|
ภิกษุทั้งหลายเหล่าใด อาศัยแล้วซึ่งซอกแห่งภูเขา
|
ปหิตตฺตา สมาหิตา
|
มีตนอันส่งไปแล้ว ตั้งจิตมั่น
|
ปุถู สีหาว
สลฺลีนา
|
เป็นอันมาก ซ่อนเร้นอยู่แล้ว ดังราชสีห์
|
โลมหํสาภิสมฺภุโน
|
ครอบงำเสียซึ่งขนพองสยองเกล้า
|
โอทาตมนสา สุทฺธา
|
มีใจผุดผ่อง หมดจด
|
วิปฺปสนฺนมนาวิลา
|
ใสสะอาดไม่ขุ่นมัว
|
ภิยฺโย ปญฺจสเต
ญตฺวา
วเน กาปิลวตฺถเว
ตโต อามนฺตยิ
สตฺถา
สาวเก สาสเน
รเต
|
พระศาสดา ทรงทราบภิกษุที่อยู่ ณ ป่ามหาวัน ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ 500 เศษ
แต่นั้นจึงตรัสเรียกพระสาวกทั้งหลาย
ผู้ยินดีแล้วในพระศาสนาว่า
|
เทวกายา อภิกฺกนฺตา
เต วิชานาถ
ภิกฺขโว
|
ภิกษุทั้งหลาย หมู่เทพดามุ่งมากันแล้ว ท่านทั้งหลายจงรู้จักหมู่เทพดาเหล่านั้น
|
เต จ
อาตปฺปมกรุํ
สุตฺวา พุทฺธสฺส
สาสนํ
|
ภิกษุเหล่านั้น สดับพุทธศาสน์แล้ว ได้กระทำความเพียรเจริญทิพยจักษุญาณ
|
เตสมฺปาตุรหุ ญาณํ
อมนุสฺสาน ทสฺสนํ
|
ทิพยจักษุญาณ เครื่องเห็นพวกอมนุษย์ ได้ปรากฏแล้วแก่ท่าน
|
อปฺเปเก สตมทฺทกฺขุํ
|
ภิกษุทั้งหลายบางพวก ได้เห็นอมนุษย์ 1 ร้อย
|
สหสฺสํ อถ
สตฺตรึ
|
บางพวก ได้เห็นอมนุษย์ 7 พัน
|
สตํ เอเก
สหสฺสานํ
อมนุสฺสานมทฺทสุํ
|
บางพวก ได้เห็นอมนุษย์ 1 แสน
|
อปฺเปเกนนฺตมทฺทกฺขุํ
|
บางพวก ได้เห็นอมนุษย์ไม่มีกำหนด
|
ทิสา สพฺพา
ผุฏา อหุํ
|
อมนุษย์ทั้งหลาย ได้แผ่ไปแล้วทั่วทิศ
|
ตญฺจ สพฺพํ
อภิญฺญาย
ววกฺขิตฺวาน จกฺขุมา
ตโต อามนฺตยิ
สตฺถา
สาวเก สาสเน
รเต
|
พระศาสดาผู้มีดวงตา ทรงใคร่ครวญ ทราบเหตุนั้นสิ้นแล้ว แต่นั้นจึงตรัสเรียกพระสาวก ผู้ยินดีแล้วในศาสนาว่า
|
เทวกายา อภิกฺกนฺตา
เต วิชานาถ
ภิกฺขโว
|
ภิกษุทั้งหลาย หมู่เทพดามาประชุมกันแล้ว ท่านทั้งหลายจงรู้จักหมู่เทพดาเหล่านั้น
|
เย โวหํ
กิตฺตยิสฺสามิ
|
เราจักบอกแก่ท่านทั้งหลาย
|
คิราหิ อนุปุพฺพโส
|
ด้วยวาจาโดยลำดับ
|
สตฺตสหสฺสาว ยกฺขา
|
ยักษ์ทั้งหลาย
7
พัน
|
ภุมฺมา กาปิลวตฺถวา
|
เป็นภุมมเทพดา อาศัยกรุงกบิลพัสดุ์
|
อิทฺธิมโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
ฉสหสฺสา เหมวตา
ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน
|
ยักษ์ทั้งหลาย
6
พัน
อยู่ที่เขาเหมวตา มีรัศมีต่าง ๆ
กัน
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
สาตาคิรา ติสหสฺสา
ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน
|
ยักษ์ทั้งหลาย
3
พัน
อยู่ที่เขาสาตาคีรี มีรัศมีต่าง
ๆ กัน
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
อิจฺเจเต โสฬสสหสฺสา
ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน
|
ยักษ์ทั้งหลายเหล่านั้น รวมเป็น
หมื่น 6 พัน มีรัศมีต่าง ๆ กัน |
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
เวสฺสามิตฺตา ปญฺจสตา
ยกฺขา นานตฺตวณฺณิโน
|
ยักษ์ทั้งหลาย
500 อยู่ที่เขาเวสสามิต
มีรัศมีต่าง ๆ กัน |
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
กุมฺภิโร ราชคหิโก
|
ยักษ์ชื่อกุมภีร์ อยู่แล้วในกรุงราชคฤห์
|
เวปุลฺลสฺส นิเวสนํ
|
เขาชื่อเวปุลละ เป็นที่อยู่ของยักษ์ชื่อกุมภีร์นั้น
|
ภิยฺโย นํ
สตสหสฺสํ
ยกฺขานํ ปยิรุปาสติ
|
แสนแห่งยักษ์ทั้งหลายเศษ เข้าไปเฝ้ายักษ์ชื่อกุมภีร์นั้น
|
กุมฺภิโร ราชคหิโก
โสปาค สมิตึ
วนํ
|
ยักษ์ชื่อกุมภีร์ ผู้อยู่แล้วในกรุงราชคฤห์แม้นั้น ได้มาแล้วสู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
ปุริมญฺจ ทิสํ
ราชา
ธตรฏฺโฐ ปสาสติ
|
ท้าวธตรฏฐ์ ผู้อยู่ด้านทิศบูรพา ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
|
คนฺธพฺพานํ อาธิปติ
|
เป็นอธิบดีของพวกคนธรรพ์
|
มหาราชา ยสสฺสิ
โส
|
เธอเป็นมหาราช มียศ
|
ปุตฺตาปิ ตสฺส
พหโว
|
แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
|
อินฺทนามา มหพฺพลา
|
มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต
ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
ทกฺขิณญฺจ ทิสํ
ราชา
วิรุฬฺโห ตปฺปสาสติ
|
ท้าววิรุฬหก ผู้อยู่ด้านทิศทักษิณ ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
|
กุมฺภณฺฑานํ อาธิปติ
|
เป็นอธิบดีของพวกกุมภัณฑ์
|
มหาราชา ยสสฺสิ
โส
|
เธอเป็นมหาราช มียศ
|
ปุตฺตาปิ ตสฺส
พหโว
|
แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
|
อินฺทนามา มหพฺพลา
|
มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
ปจฺฉิมญฺจ ทิสํ
ราชา
วิรูปกฺโข ปสาสติ
|
ท้าววิรูปักษ์ ผู้อยู่ด้านทิศปัศจิม ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
|
นาคานํ อาธิปติ
|
เป็นอธิบดีของพวกนาค
|
มหาราชา ยสสฺสิ
โส
|
เธอเป็นมหาราช มียศ
|
ปุตฺตาปิ ตสฺส
พหโว
|
แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
|
อินฺทนามา มหพฺพลา
|
มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
อุตฺตรญฺจ ทิสํ
ราชา
กุเวโร ตปฺปสาสติ
|
ท้าวกุเวร ผู้อยู่ด้านทิศอุดร ปกครองอยู่ซึ่งทิศนั้น
|
ยกฺขานํ อาธิปติ
|
เป็นอธิบดีของพวกยักษ์
|
มหาราชา ยสสฺสิ
โส
|
เธอเป็นมหาราช มียศ
|
ปุตฺตาปิ ตสฺส
พหโว
|
แม้บุตรทั้งหลายของเธอเป็นอันมาก
|
อินฺทนามา มหพฺพลา
|
มีนามว่าอินทร์ มีกำลังมาก
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
ปุริมทิสํ ธตรฏฺโฐ
|
ท้าวธตรฏฐ์เป็นใหญ่ทิศบูรพา
|
ทกฺขิเณน วิรุฬฺหโก
|
ท้าววิรุฬหกเป็นใหญ่ทิศทักษิณ
|
ปจฺฉิเมน วิรูปกฺโข
|
ท้าววิรูปักษ์เป็นใหญ่ทิศปัศจิม
|
กุเวโร อุตฺตรํ
ทิสํ
|
ท้าวกุเวรเป็นใหญ่ทิศอุดร
|
จตฺตาโร เต
มหาราชา
|
มหาราชทั้ง
4
นั้น
|
สมนฺตา จตุโร
ทิสา
|
ยัศทิศทั้ง
4
โดยรอบ
|
ททฺทลฺลมานา อฏฺฐํสุ
|
ให้รุ่งเรืองประทับอยู่
|
วเน กาปิลวตฺถเว
|
ในป่ามหาวันใกล้กรุงกบิลพัสดุ์
|
เตสํ มายาวิโน
ทาสา
|
บ่าวทั้งหลายของมหาราชทั้ง
4
นั้น มีมายา
|
อาคู วญฺจนิกา
สฐา
มายา กุเฏณฺฑุ
เวเฏณฺฑุ
วิฏู จ
วิฏุโต สห
|
ล่อลวงโอ้อวดเจ้าเล่ห์ มาด้วยกันคือกุเฏณฑุ 1 เวเฏณฑุ 1 วิฏู 1 วิฏุตะ 1
|
จนฺทโน กามเสฏฺโฐ
จ
|
จันทนะ
1 กามเสฏฐะ 1
|
กินฺนุฆณฺฑุ นิฆณฺฑุ
จ
|
กินนุฆัณฑุ
1 นิฆัณฑุ 1
|
ปนาโท โอปมญฺโญ
จ
|
ปนาทะ
1 โอปมัญญะ 1
|
เทวสูโต จ
มาตลิ
|
เทวสูตะ
1 มาตลิ 1
|
จิตฺตเสโน จ
คนฺธพฺโพ
|
จิตตเสนะ
1 คันธัพพะ 1
|
นโฬราชา ชโนสโภ
|
นโฬราชะ
1 ชโนสภะ 1
|
อาคู ปญฺจสิโข
เจว
ติมฺพรู สุริยวจฺฉสา
|
ปัญจสิขะ
1 ติมพรู 1
สุริยวัจฉสา
1 มาทั้งนั้น
|
เอเต จญฺเญ
จ ราชาโน
คนฺธพฺพา สห
ราชุภิ
|
คนธรรพราชาทั้งหลาย เหล่านั้นและเหล่าอื่น กับด้วยเทวราชทั้งหลาย
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
อถาคู นาภสา
นาคา
เวสาลา สหตจฺฉกา
|
อนึ่ง นาคทั้งหลายอยู่ในสระ ชื่อนาสภะบ้าง อยู่ในเมืองเวสาลีบ้าง กับด้วยบริษัทแห่งตัจฉกนาคราช ก็มา
|
กมฺพลสฺสตรา อาคู
|
กัมพลนาคและอัสสตรนาคก็มา
|
ปายาคา สห
ญาติภิ
|
นาคผู้อยู่ในป่า ชื่อปายาคะกับด้วยญาติทั้งหลาย ก็มา
|
ยามูนา ธตรฏฺฐา
จ
อาคู นาคา
ยสสฺสิโน
|
นาคผู้อยู่ในแม่น้ำยมุนา เกิดในสกุลธตรฏฐ์ ผู้มียศบริวาร ก็มา
|
เอราวณฺโณ มหานาโค
|
เอราวรรณเทพบุตร ผู้เป็นช้างใหญ่
|
โสปาค สมิตึ
วนํ
|
แม้เขาก็มาสู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
เย นาคราเช
สหสา หรนฺติ
ทิพฺพา ทิชา
ปกฺขิ วิสุทฺธจกฺขู
|
สัตว์ทวิชาติเป็นทิพย์ มีปีกมีตาอันบริสุทธิ์ คือพระยาครุฑเหล่าใด นำนาคราชไปได้โดยฉับพลัน
|
เวหายสา เต
วนมชฺฌปตฺตา
|
พระยาครุฑเหล่านั้น ได้มาโดยอากาศ ถึงท่ามกลางแห่งป่ามหาวัน
|
จิตฺรา สุปณฺณา
อิติ เตส นามํ
|
ชื่อของพระยาครุฑเหล่านั้นว่า จิตรสุบรรณ
|
อภยนฺตทา นาคราชานมาสิ
|
ในกาลนั้น อภัยได้มีแล้วแก่นาคราชทั้งหลาย
|
สุปณฺณโต เขมมกาสิ
พุทฺโธ
|
พระพุทธเจ้า ได้ทรงกระทำพระยานาค ให้เกษมจากพระยาสุบรรณ
|
สณฺหาหิ วาจาหิ
อุปวฺหยนฺตา
นาคา สุปณฺณา
สรณมกํสุ พุทธํ
|
พระยานาคกับพระยาสุบรรณเจรจากันด้วยวาจาอันไพเราะ กระทำพระพุทธเจ้าให้เป็นสรณะ
|
ชิตา วชิรหตฺเถน
สมุทฺทํ อสุรา
สิตา
|
พวกอสูร ซึ่งอยู่ในสมุทร อันวชิรหัตถ์ คือพระอินทร์ ได้รบชนะแล้ว
|
ภาตโร วาสวสฺเสเต
อิทฺธิมนฺโต ยสสฺสิโน
|
นาคและสุบรรณนั้น เป็นผู้มีฤทธิมียศ เคยเป็นพี่น้องของท้าววาสวะ คือพระอินทร์
|
กาลกญฺชา มหาภิสฺมา
|
พวกกาลกัญชาอสูร มีกายใหญ่พิลึกก็มา
|
อสุรา ทานเวฆสา
|
พวกทานเวฆสาอสูรก็มา
|
เวปจิตฺติ สุจิตฺติ
จ
|
เวปจิตติอสูรก็มา สุจิตติอสูรก็มา
|
ปหาราโท นมุจี
สห
|
และปหาราทอสูรก็มา นมุจีพระยามารก็มาด้วย
|
สตญฺจ พลิปุตฺตานํ
|
บุตรของพลิอสูร
1
ร้อย
|
สพฺเพ เวโรจนามกา
|
มีชื่อว่าไพโรจน์ทั้งหมด
|
สนฺนยฺหิตฺวา พลึ
เสนํ
|
ผูกสอดเครื่องเสนาอันมีกำลัง
|
ราหุภทฺทมุปาคมุํ
|
เข้าไปใกล้อสุรินทราหูแล้ว กล่าวว่า
|
สมโยทานิ ภทฺทนฺเต
|
ดูก่อนท่านผู้เจริญ บัดนี้เป็นสมัยกาลที่ประชุมกันดังนี้แล้ว
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
ได้เข้าไปสู่ป่ามหาวันเป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
อาโป จ
เทวา ปฐวี จ
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่ออาโปด้วย ชื่อปฐวีด้วย
|
เตโช วาโย
ตทาคมุํ
|
ชื่อเตโชด้วย ชื่อวาโยด้วย ก็มาในกาลนั้น
|
วรุณา วารุณา
เทวา
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่อวรุณะด้วย ชื่อวารุณะด้วย
|
โสโม จ
ยสสา สห
|
ชื่อโสมะ และชื่อยสะ ก็มาด้วยกัน
|
เมตฺตากรุณากายิกา
อาคู เทวา
ยสสฺสิโน
|
เทพดาทั้งหลาย
ผู้บังเกิดแล้วด้วยเมตตาและกรุณาฌานเป็นผู้มียศ ก็มา
|
ทเสเต ทสธา
กายา
|
พวกแห่งเทพดาทั้งหลาย
10
เหล่านี้
ตั้งอยู่แล้วโดยส่วน 10
|
สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน
|
ล้วนมีรัศมีต่าง
ๆ กันทั้งหมด
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
เวณฺฑู จ
เทวา สหลี จ
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่อเวณฑูด้วย ชื่อสหลีด้วย
|
อสมา จ
ทุเว ยมา
|
ชื่ออสมาด้วย ชื่อยมด้วย ทั้ง 2 พวกก็มา
|
จนฺทสฺสูปนิสา เทวา
|
เทพดาทั้งหลายผู้อาศัยพระจันทร์
|
จนฺทมาคู ปุรกฺขิตา
|
กระทำพระจันทร์ไว้เบื้องหน้าก็มา
|
สุริยสฺสูปนิสา เทวา
|
เทพดาทั้งหลายผู้อาศัยพระอาทิตย์
|
สุริยมาคู
ปุรกฺขิตา
|
กระทำพระอาทิตย์ไว้เบื้องหน้าก็มา
|
นกฺขตฺตานิ ปุรกฺขิตฺวา
|
เทพดาทั้งหลาย กระทำนักษัตรฤกษ์ทั้งหลายไว้เบื้องหน้าก็มา
|
อาคู มนฺทพลาหกา
|
มันทพลาหกเทพดาทั้งหลายก็มา
|
วสูนํ วาสโว
เสฏฺโฐ
สกฺโก ปาค
ปุรินฺทโท
|
แม้ท้าวสักกวาสวะปุรินททะ
ผู้ประเสริฐกว่าอสุรเทพดาทั้งหลายก็เสด็จมา
|
ทเสเต
ทสธา กายา
|
หมู่แห่งเทพดาทั้งหลาย
10
เหล่านี้
ตั้งอยู่แล้วโดยส่วน 10
|
สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน
|
ล้วนมีรัศมีต่าง
ๆ กันทั้งหมด
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
อถาคู สหภู
เทวา
|
อนึ่ง เทพดาทั้งหลาย ชื่อสหภู
ก็มา
|
ชลมคฺคิสิขาริว
|
รุ่งเรืองดุจเปลวประทีป
|
อริฏฺฐกา จ
โรชา จ
|
ชื่ออริฏฐกะและชื่อโรชะก็มา
|
อุมฺมาปุปฺผนิภาสิโน
|
มีรัศมีดุจสีแห่งดอกผักตบ
|
วรุณา สหธมฺมา
จ
|
ชื่อวรุณะ และชื่อสหธรรม
|
อจฺจุตา จ
อเนชกา
|
ชื่ออัจจุตะ และชื่ออเนชกะ
|
สุเลยฺยรุจิรา อาคู
|
ชื่อสุเลยยรุจิระก็มา
|
อาคู วาสวเนสิโน
|
ชื่อวาสวเนสิน ก็มา
|
ทเสเต ทสธา
กายา
|
หมู่แห่งเทพดาทั้งหลาย
10
เหล่านี้
ตั้งอยู่แล้วโดยส่วน 10
|
สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน
|
ล้วนมีรัศมีต่าง
ๆ กันทั้งหมด
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
สมานา มหาสมานา
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่อสมานะ
ชื่อมหาสมานะ
|
มานุสา มานุสุตฺตมา
|
ชื่อมานุสะ ชื่อมานุสุตตมะ
|
ขิฑฺฑาปทูสิกา อาคู
|
ชื่อขิฑฑาปทูสิกะ ก็มา
|
อาคู มโนปทูสิกา
|
ชื่อมโนปทูสิกะ ก็มา
|
อถาคู หรโย
เทวา
|
อนึ่ง เทพดาทั้งหลาย ชื่อหรยะ
ก็มา
|
เย จ
โลหิตวาสิโน
|
เทพดาซึ่งชื่อโลหิตวาสี ก็มา
|
ปารคา มหาปารคา
อาคู เทวา
ยสสฺสิโน
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่อปารคะ
ชื่อมหาปารคะ ผู้มียศ ก็มา
|
ทเสเต ทสธา
กายา
|
หมู่แห่งเทพดาทั้งหลาย
10
เหล่านี้
ตั้งอยู่แล้วโดยส่วน 10
|
สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน
|
ล้วนมีรัศมีต่าง
ๆ กันทั้งหมด
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
สุกฺกา กรุมฺหา
อรุณา
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่อสุกกะ
ชื่อกรุมหะ ชื่ออรุณะ
|
อาคู เวฆนสา
สห
|
ชื่อเวฆนสะ ก็มาด้วยกัน
|
โอทาตคยฺหา ปาโมกฺขา
อาคู เทวา
วิจกฺขณา
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่อโอทาตคัยหะ ผู้เป็นหัวหน้า ชื่อวิจักขณะ ก็มา
|
สทามตฺตา หารคชา
|
ชื่อสทามัตตะ ชื่อหารคชะ
|
มิสฺสกา จ
ยสสฺสิโน
|
และชื่อมิสสกะ ผู้มียศ
ก็มา
|
ถนยํ อาคา
ปชุนฺโน
โย ทิสา
อภิวสฺสติ
|
ปชุนนเทพบุตร ซึ่งคำรามให้ฝนตกทั่วทิศ ก็มา
|
ทเสเต ทสธา
กายา
|
หมู่แห่งเทพดาทั้งหลาย
10
เหล่านี้
ตั้งอยู่แล้วโดยส่วน 10
|
สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน
|
ล้วนมีรัศมีต่าง
ๆ กันทั้งหมด
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
เขมิยา ตุสิตา
ยามา
|
เทพดาทั้งหลาย ชื่อเขมิยะ ชื่อตุสิตะ ชื่อยามะ
|
กฏฺฐกา จ
ยสสฺสิโน
|
และชื่อกัฏฐกะ มียศ
|
ลมฺพิตกา ลามเสฏฺฐา
|
ชื่อลัมพิตกะ ชื่อลามเสฏฐะ
|
โชตินามา จ
อาสวา
|
ชื่อโชตินามะ และชื่ออาสวะ
|
นิมฺมานรติโน อาคู
|
ชื่อนิมมานรดี ก็มา
|
อถาคู ปรนิมฺมิตา
|
อนึ่ง เทพดาทั้งหลาย ชื่อปรนิมมิตะ ก็มา
|
ทเสเต ทสธา
กายา
|
หมู่แห่งเทพดาทั้งหลาย
10
เหล่านี้
ตั้งอยู่แล้วโดยส่วน 10
|
สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน
|
ล้วนมีรัศมีต่าง
ๆ กันทั้งหมด
|
อิทฺธิมนฺโต ชุติมนฺโต
|
มีฤทธิ มีอานุภาพ
|
วณฺณวนฺโต ยสสฺสิโน
|
มีรัศมี มียศ
|
โมทมานา อภิกฺกามุํ
|
ยินดีมุ่งมา
|
ภิกฺขูนํ สมิตึ
วนํ
|
สู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
สฏฺเฐเต เทวนิกายา
|
หมู่เทพดาทั้งหลาย
60
นี้
|
สพฺเพ นานตฺตวณฺณิโน
|
ล้วนมีรัศมีต่าง
ๆ กันทั้งหมด
|
นามนฺวเยน อาคญฺฉุํ
|
มาแล้วโดยกำหนดชื่อ
|
เย จญฺเญ
สทิสา สห
|
เทพดาทั้งหลายเหล่าอื่นนั้น ก็มาพร้อมกัน ด้วยคิดว่า
|
ปวุตฺถชาติมกฺขีลํ
โอฆติณฺณมนาสวํ
ทกฺเขโมฆตรํ นาคํ
|
เราทั้งหลาย จักเห็นพระนาคผู้ปราศจากชาติ ผู้ไม่มีกิเลสดุจตาปู ผู้มีโอฆะอันข้ามได้แล้ว ผู้ไม่มีอาสวะ พ้นจากโอฆะ
|
จนฺทํว อสิตาติตํ
|
ผู้ล่วงกรรมดำ คืออกุศลได้แล้ว ดุจพระจันทร์พ้นจากเมฆพลาหก ฉะนั้น
|
สุพฺรหฺมา ปรมตฺโต
จ
|
สุพรหมกับปรมัตตพรหม
|
ปุตฺตา อิทฺธิมโต
สห
|
ผู้เป็นบุตรของท่านผู้มีฤทธิ ก็มาด้วย
|
สนฺนงฺกุมาโร ติสฺโส
จ
|
สันนังกุมารพรหมกับติสสพรหม
|
โสปาค สมิตึ
วนํ
|
แม้เขาก็มาสู่ป่ามหาวัน เป็นที่ประชุมแห่งภิกษุทั้งหลาย
|
สหสฺสพฺรหฺมโลกานํ
มหาพฺรหฺมาภิติฏฺฐติ
|
ท้าวมหาพรหม ย่อมปกครองพรหมโลกพันหนึ่ง
|
อุปปนฺโน ชุติมนฺโต
|
บังเกิดแล้วในพรหมโลก มีอานุภาพ
|
ภิสฺมากาโย ยสสฺสิ
โส
|
มีกายใหญ่โต มียศ
ก็มา
|
ทเสตฺถ อิสฺสรา
อาคู
|
พรหมทั้งหลาย
10
เป็นอิสระในพวกพรหมพันหนึ่งนั้น
ก็มา
|
ปจฺเจกวสวตฺติโน
|
มีอำนาจอันเป็นไปต่าง
ๆ กัน
|
เตสญฺจ มชฺฌโต
อาคา
หาริโต ปริวาริโต
|
มหาพรหมนั้น ชื่อหาริตะ อันบริวารแวดล้อมแล้ว มาในท่ามกลางแห่งพรหมทั้งหลายเหล่านั้น
|
เต จ
สพฺเพ อภิกฺกนฺเต
สินฺเท เทเว
สพฺรหฺมเก
มารเสนา อภิกฺกามิ
|
มารเสนา ได้เห็นพวกเทวดาพร้อมด้วยพระอินทร์ พระพรหม
ทั้งหมดนั้น ก็มาด้วย
|
ปสฺส กณฺหสฺส
มนฺทิยํ
|
แล้วกล่าวว่า ท่านจงดูความเขลาของพวกข้าศึก
|
เอถ คณฺหถ
พนฺธถ
|
พญามารจึงกล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงมาจับพวกเทพดาเหล่านี้ผูกไว้
|
ราเคน พนฺธมตฺถุ
โว
|
ความผูกด้วยราคะ จงมีแก่ท่านทั้งหลาย
|
สมนฺตา ปริวาเรถ
|
ท่านทั้งหลาย จงแวดล้อมไว้โดยรอบ
|
มา โว
มุญฺจิตฺถ โกจิ นํ
|
ท่านทั้งหลาย อย่าปล่อยใครๆ ไป
|
อิติ ตตฺถ
มหาเสโน
กณฺหเสนํ อเปสยิ
|
พญามาร บังคับเสนามารในที่ประชุมนั้น ดังนี้
|
ปาณินา ตลมาหจฺจ
|
แล้วตบพื้นแผ่นดินด้วยฝ่ามือ
|
สรํ กตฺวาน
เภรวํ
|
กระทำเสียงน่ากลัว
|
ยถา ปาวุสฺสโก
เมโฆ
|
เหมือนมหาเมฆยังฝนให้ตก
|
ถนยนฺโต สวิชฺชุโก
|
คำรามอยู่ เป็นไปกับด้วยฟ้าแลบ
|
ตทา โส
ปจฺจุทาวตฺติ
สงฺกุทฺโธ อสยํวเส
|
ในกาลนั้น
พญามารนั้นไม่ยังใครให้เป็นไปในอำนาจได้เสียใจกลับ
|
ตญฺจ สพฺพํ
อภิญฺญาย
ววกฺขิตฺวาน จกฺขุมา
ตโต อามนฺตยิ
สตฺถา
|
พระศาสดาผู้มีดวงตา พิจารณาแล้วทราบเหตุนั้นทั้งสิ้น แต่นั้นจึงตรัสเรียก
|
สาวเก สาสเน
รเต
|
ซึ่งพระสาวกทั้งหลาย ผู้ยินดีแล้วในพระศาสนาว่า
|
มารเสนา อภิกฺกนฺตา
เต วิชานาถ
ภิกฺขโว
|
ภิกษุทั้งหลาย มารเสนามา
ท่านทั้งหลาย จงรู้จักเขา
|
เต จ
อาตปฺปมกรุํ
สุตฺวา พุทฺธสฺส
สาสนํ
|
ภิกษุเหล่านั้น สดับพุทธศาสน์แล้ว ได้กระทำความเพียรเจริญทิพยจักษุญาณเห็นแล้ว
|
วีตราเคหิ ปกฺกามุํ
|
มารเสนา ได้หลีกไปจากภิกษุทั้งหลาย ผู้ปราศจากราคะ
|
เนสํ โลมมฺปิ
อิญฺชยุํ
|
ไม่ยังแม้โลมชาติของท่านให้ไหวได้
|
สพฺเพ วิชิตสงฺคามา
ภยาตีตา ยสสฺสิโน
โมทนฺติ สห
ภูเตหิ
สาวกา เต
ชเนสุตาติ.
|
(พญามารกล่าวสรรเสริญว่า)
พระสาวกทั้งหลายของพระองค์ทั้งหมด มีสงครามชนะแล้ว ล่วงความกลัวเสียได้ มียศปรากฏแล้วในประชุมชน บันเทิงอยู่กับด้วยพระอริยะ ผู้เกิดแล้วในพระศาสนา.
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น